ประวัติ จายคำเล็ก

จายคำเล็ก นักปราชญ์แห่งวงการเพลงไทยใหญ่

คอลัมน์รู้จักคนดังฉบับนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับจายคำเล็กนักประพันธ์เชื้อสายไทยใหญ่ผู้มีความสามารถในการประพันธ์งานเขียนมากมาย อาทิเช่น กลอน นิยาย บทกวี สุภาษิต  ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในหมู่ชาวพม่าและชาวไทยใหญ่ คือ ผลงานเพลงทั้งไทยใหญ่ พม่า และอังกฤษ ซึ่งแต่งขึ้นด้วยปลายปากกาของเขารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 เพลง บทเพลงของเขามีความหมายลึกซึ้งกินใจและกลายเป็นเพลงฮิตติดอันดับจนบรรดานักเล่นกีตาร์ส่วนใหญ่ต้องมีหนังสือรวมเพลงฮิตของเขาเอาไว้ติดบ้าน  รวมทั้งทำให้สายมาวศิลปินนักร้องยอดนิยมที่สุดของชาวไทยใหญ่สามารถแจ้งเกิดจากเพลงนี้และถูกจับติดคุกนานถึงสองปีเนื่องจากบทเพลงมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองและฮิตมากในหมู่ชาวไทยใหญ่
จายคำเล็กเกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2492 ที่ย่านหัวแต้น เมืองแสนหวี ภาคเหนือของรัฐฉาน บิดาคือนายก๋าคำ หรือนายส่วยจี่ อดีตครูหมอ(อาจารย์)ที่มีความชำนาญในด้านการเขียน/อ่านภาษาไทยใหญ่โบราณ และอดีตอำมาตย์ประจำวังเจ้าฟ้าแสนหวี ส่วนมารดาชื่อนางจิ่งอุ๊ ซึ่งทั้งสองได้เสียชีวิตแล้ว มีพี่น้องร่วมกันทั้งหมด 4 คน โดยเป็นพี่ชาย 1 คนชื่อ จายตุ่มคำ (เสียชีวิตเมื่อปี 2527) น้องชาย 1 คนชื่อจายคำตี่ อดีตนักแต่งเพลงซึ่งได้เสียชีวิตแล้วเช่นกัน และคนสุดท้ายคือ นางอ๋อมคำ ปัจจุบันอยู่ที่เมืองตองจี เมืองหลวงของรัฐฉาน
จายคำเล็กได้รับการตั้งชื่อใหม่เป็น “ลูอิส คำ” (Louis Kham ) เมื่อตอนเข้าเรียนโรงเรียนมิชชันนารีสมัยมัธยม  ส่วนชื่อที่คนไทยใหญ่และคนในประเทศพม่านิยมเรียกคือ “ด็อกเตอร์จายคำเล็ก”  จบการศึกษาปริญญาตรีด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ [M.B.,B.S] จากมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง เมื่อปี พ.ศ. 2519 และปริญญาโทสาขาวิทยาศาสตร์และเกี่ยวกับอวัยวะภายในของมนุษย์ M.Med.,Sc [Anatomy] จากมหาวิทยาลัยมัณฑะเลย์ เมื่อปี พ.ศ. 2532 คู่สมรสคือหมอนางน้อย น้อยติ่น เชื้อสายมอญ/พม่า และมีบุตรด้วยกันทั้งหมด 4 คือ นางคำน้อยเล็ก(เป็นนักร้อง) นางคำอุ๊เล็ก นางคำหาญเล็ก และจายคำโจเล็ก      
เนื่องจากในช่วงที่หมอจายคำเล็กอยู่ในวัยเด็ก ผู้เป็นบิดาได้ปลูกฝังให้เขาตอบแทนบุญคุณต่อชาติบ้านเมืองของตัวเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงเริ่มแต่งบทกลอนและเพลงด้วยทำนองของตัวเอง[Own Tune] ขึ้น ซึ่งเพลงส่วนใหญ่ที่เขาแต่งนั้นมีเนื้อหาเชิงปลุกใจ อย่างเช่น เพลง “ให้มีใจ๋ฮักเคอ” (ให้มีใจรักชาติ) เพลง “เหลอเสใจ๋ฮักเคอ” (นอกจากใจรักชาติ) เพลง “วันไตยให้ใหม่สูง” (วันไทยใหญ่จงก้าวหน้า) และมีอีกหลายๆ เพลง ต่อมาได้แต่งเพลงที่มีชื่อว่า “ถึงป่าเห้วคนต๋ายลิบ” (แด่..สุสานคนเป็น) ซึ่งมีเนื้อความบ่งบอกถึงความไร้อิสรภาพของมนุษย์ที่เปรียบเสมือนมีลมหายใจอยู่แต่เหมือนกับว่าไม่มีตัวตนนั่นเอง จากนั้นเขาได้นำเพลงนี้ไปร้องให้กับกลุ่มวัยรุ่นในที่ต่างๆ ในรัฐฉานทำให้เขาถูกทหารพม่าจับกุมขังที่เมืองล่าเสี้ยวอยู่นานหลายเดือน ในขณะที่ถูกจองจำอยู่นั้นเขาได้แต่งเพลงที่มีชื่อว่า “ลุกตี้ป่าเห้วคนต๋ายลิบ” (จาก..สุสานของคนตายทั้งเป็น) ที่มีเนื้อหาสะท้อนถึงเหตุที่ทำให้เขาถูกทหารพม่าจับกุม จากสาเหตุที่เขาเขียนเพลง “แด่..สุสานคนเป็น นั่นเอง
หลังจากพ้นโทษไม่นาน เขาได้แต่งเพลง “ลิ๊กโห้มหมายป๋างโหลง” (สัญญาปางโหลง) ซึ่งเป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวการทวงคำสัญญาซึ่งผู้นำพม่าเคยให้ไว้ว่าหลังจากการปกครองร่วมกันครบ 10 ปีนับจากันที่ได้รับเอกราชปี พ.ศ.  2490 แล้ว ทางพม่าจะให้ไทยใหญ่ปกครองรัฐฉานด้วยตนเอง แต่เมื่อครบกำหนดดังกล่าว ทางพม่าก็ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้แต่อย่างใด แถมส่งทหารเข้าทำการปฏิวัติ ส่งผลให้เจ้าฟ้าของไทยใหญ่หลายท่าน รวมทั้งนายอองซาน บิดาของนางอองซาน ซูจี เสียชีวิต ในครั้งนั้น  บทเพลงดังกล่าว ถูกขับร้องโดยจายสายมาว อีกหนึ่งนักร้องชื่อดังของชาวไทยใหญ่ แต่หลังจากอัลบั้มเพลงนี้ได้เผยแพร่ออกไป จายสายมาวจึงถูกทหารพม่าจับกุมนานถึง 2 ปี
แม้ว่าตัวเขาและนักร้องจะถูกจับเข้าคุก  หมอจายคำเล็กก็ยังไม่ย่อท้อกับอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตรงกันข้าม  เขากลับพยายามหาทางต่อสู้ด้วยบทเพลงของเขาต่อไปในลักษณะที่ไม่ปะทะกับรัฐบาลทหารโดยตรง แต่ซ่อนเนื้อหาและความหมายอันลึกซึ้งกินใจไว้ในบทเพลงรักหวานซึ้งซึ่งหลายบทเพลงสะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ยากของชาวไทยใหญ่หรือชีวิตผู้คน แต่ไม่ได้มีถ้อยคำโจมตีผู้มีอำนาจแต่อย่างใด
เนื่องจากตลาดเพลงภาษาไทยใหญ่แคบกว่าตลาดเพลงภาษาพม่า  จายคำเล็กจึงหันมาแต่งเพลงภาษาพม่าและภาษาอังกฤษเพื่อขยายกลุ่มคนฟัง ซึ่งหลายบทเพลงสะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ยากของชีวิตผู้คนในประเทศพม่า ภายใต้ถ้อยคำรักหวานซึ้ง ดังเช่น บทเพลง “พระจันทร์กลางกรุงย่างกุ้ง” สะท้อนให้เห็นถึงความรักของชายหนุ่มยากจนซึ่งหลงรักหญิงสาวมีฐานะ เขาเปรียบเทียบความรักของเขาว่าเป็นเหมือนกับพระจันทร์กลางกรุงย่างกุ้งซึ่งเต็มไปด้วยตึกสูงจนมองไม่เห็นแสงจันทร์  เช่นเดียวกับที่เธอมองไม่เห็นความรักของเขา
จนถึงปัจจุบันนี้บทเพลงของหมอนักแต่งเพลงท่านนี้วางแผงบนท้องตลาดไปแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งพันบทเพลง  โดยแบ่งเป็นเพลงพม่าประมาณ 500 เพลง เพลงไทยใหญ่มากกว่า 500 เพลง อังกฤษ 35 เพลง แต่ทั้งนี้เขาไม่เคยร้องหรือออกอัลบั้มเป็นของตัวเอง โดยเพลงของเขาส่วนใหญ่นั้นได้มอบให้กับจายทีแสง เพื่อนรุ่นน้องของเขา ที่คนส่วนใหญ่กล่าวชมว่าเป็นนักร้องเสียงดีเป็นผู้ขับร้อง และยังมีนักร้องชื่อดังอีกหลายคนที่ได้นำเพลงของไปร้อง เช่น จายสายมาว จายแสงจ๋อมฟ้า นางคำน้อยเล็ก(ลูกสาวคนโตของเขา) รวมทั้งวงดนตรี “เจิงแลว” [Freedom’s Way] ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีเพื่อชีวิตที่มีชื่อเสียงของไทยใหญ่
ทั้งนี้มีเพลงซึ่งเป็นภาษาไทยใหญ่หลายอัลบั้มด้วยกันที่ฮิตติดอันดับ ซึ่งได้แก่ ผ่ายปุ้นลับสิ่งหลงไน่(ฟากโน้นของความมืด) ไตยหกเมืองเคอใหญ่(ไทยใหญ่หกยุค “ใหญ่”) ถึงป่าเห้วคนต๋ายลิบ(แด่..สุสานคนเป็น) ก้อแหนตาง(ผู้ชี้นำ “ทาง”) พองหน้าเมิงเหลิง(ช่วงที่บ้านเมืองเศร้า) อยู่กว่าก่อนวันมันไป่ถึง(รอไปก่อนวันยังไม่ถึง) และไตยตึ๊กตองอยู่(ไทยใหญ่ยังจำได้)
ด้านบุคลิกส่วนตัวของเขาเป็นคนสุขุม แฝงไว้ด้วยความเข้มขรึม เรียบง่าย ส่วนนิสัยส่วนตัวนั้น ชอบสวมใส่ชุดไทยใหญ่เป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือออกงานในที่ต่างๆ ส่วนงานของเขาที่ได้ทำอยู่ในปัจจุบันคือเป็นแพทย์ใหญ่ประจำโรงพยาบาลเมืองมัณฑะเลย์ในพม่าและมีตำแหน่งเป็นประธานชมรมอนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมไทยใหญ่ในมหาวิทยาลัยทั่วย่างกุ้ง
ด้วยความสามารถหลายๆ อย่างของหมอจายคำเล็กที่กล่าวมาแล้ว ทำให้มีผู้คนทั้งในแวดวงผู้ใหญ่ นักร้อง นักเขียน รวมไปถึงวัยรุ่น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เขาเป็นปราชญ์ในด้านความคิดและความพยายาม ซึ่งยากที่จะมีใครเท่าเทียม” เพราะถึงแม้ว่าเขาจะพบกับอุปสรรค จนบางครั้งแทบจะแลกด้วยชีวิตก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่ละความพยายาม จนในที่สุดทำให้เขาประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
ดังนั้น จึงไม่เกินเลยที่จะยกย่องให้เขาเป็นนักปราชญ์แห่งวงการเพลงไทยใหญ่   สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอฝากคำคมซึ่งนักปราชญ์ท่านนี้เคยเขียนเอาไว้เตือนใจผู้คนว่า “เราคุยกันในที่มืด เรากระซิบกันที่ไม่มีใครเห็น หวังวันหนึ่ง หลังจากพรุ่งนี้ เราคงพบแสงสว่าง”
  လိူၼ်တႆး               
27/เมษายน/2016 
ขอบคุณข้อมูลจาก http://salweennews.org/

แสดงความคิดเห็น

Translate






[facebook]

Author Name

ฟอร์มรายชื่อติดต่อ

ชื่อ

อีเมล *

ข้อความ *

ขับเคลื่อนโดย Blogger.